แหล่งที่มาของสาหร่ายพวงองุ่นมีความสำคัญอย่างไร

    หากจะพูดถึงความสำคัญของแหล่งที่มาของสาหร่ายพวงองุ่น มีความสำคัญอย่างไร เราคงต้องมองไปที่ 2 ประเด็นตัวอย่างที่น้อยคนจะเข้าใจ แรกเริ่มเดิมที กรมประมงฯ ได้ศึกษาและทำการวิจัย โดยนำสาหร่ายพวงองุ่นมาแก้ปัญหามลภาวะ อันเกิดจากการทำบ่อกุ้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการบำบัดน้ำเสียก่อนนำปล่อยสู่แม่น้ำลำธาร และไหลลงสู่ทะเลในที่สุด สารเคมีที่มาจากบ่อกุ้งที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้ปลาในแม่น้ำลำธารตาย และเมื่อน้ำที่มีสารเคมีจากบ่อกุ้งไปถึงทะเล ก็ได้ทำลายประการังตามชายฝั่ง ทำให้สัตว์เล็ก ๆ อย่างปู ปลา อยู่ไม่ได้ นั่นหมายถึงระบบนิเวศน์เสียหาย ซึ่งผลของการวิจัยก็เป็นไปในแนวทางที่ดี และ ณ จุดนั้น หลายคนก็มองว่า สาหร่ายพวงองุ่นที่ได้ควรจะสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรที่เลี้ยงกุ้งไปด้วย แต่หากมองให้ลึกลงไปแล้วกล่าวคือ การทดลองจากการเอาน้ำจากบ่อกุ้งที่มีการเก็บกุ้งไปแล้ว และจะลงกุ้งใหม่ โดยเอาน้ำที่เต็มไปด้วยสารเคมีที่มาจากอาหารกุ้ง ยารักษาโรคของกุ้ง และสารเคมีต่าง ๆ ที่เกษตรบางคนใช้ในการเลี้ยงกุ้งไปลงในบ่อที่เลี้ยงสาหร่าย ปรากฏว่า ใช้เวลาไม่นาน น้ำที่เดิมเต็มไปด้วยสารเคมีที่อยู่ในบ่อเลี้ยงสาหร่าย เมื่อนำน้ำไปตรวจกลับกลายเป็นน้ำที่ดี สามารถสูบนำไปเลี้ยงกุ้งได้อีก และสาหร่ายพวงองุ่นที่ได้รับน้ำจากบ่อกุ้งที่มีสารเคมีก็เจริญเติบโตได้ดี แต่คำถามที่ทุกคนค้างคาอยู่ในใจคือ “สาหร่ายที่โตมานั้น หากนำมาบริโภคจะปลอดภัยหรือไม่ หรือหากผู้บริโภครู้ว่าขั้นตอนการเลี้ยงสาหร่ายผ่านกระบวนการดังกล่าว ผู้บริโภคจะมีความเชื่อมั่นในเรื่องของสารเคมีเจือปนอยู่ในสาหร่ายด้วยหรือไม่”

ดูดน้ำเสียจากบ่อกุ้ง
นำน้ำจากบ่อกุ้งลงบ่อสาหร่ายพวงองุ่น
สาหร่ายพร้อมเก็บไปขาย
มีสารเคมีตกค้างหรือไม่??

    ประเด็นที่สองคือ ความโลภของผู้ผลิตบางคน กล่าวคือ สาหร่ายเองต้องการแร่ธาตุในการเจริญเติบโต บางฟาร์มใช้สารเคมีอย่างปุ๋ยยูเรียในการเลี้ยงสาหร่าย และแน่นอนสาหร่ายเจริญเติบโตได้ดี เม็ดใหญ่ แข็งแรง แต่คงหลีกหนีไม่พ้นเรื่องสารเคมีตกค้าง ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จะไปตกสู่ผู้บริโภค บางฟาร์มใช้ปุ๋ยคอก ทำให้มีกลิ่นสะสมกับตัวสาหร่าย บางคนทานแล้วจะได้กลิ่นคาว บางคนถึงกับอาเจียนด้วยกลิ่น บางฟาร์มใช้สารฟอร์มาลีนในการถนอมสินค้า เพื่อให้สินค้ามีอายุนานขึ้น ซึ่งการทำเช่นนี้มีผลกระทบในวงกว้าง และถ้าผู้บริโภคขาดความรู้ความเข้าใจ ซื้อสาหร่ายโดยไม่รู้ที่มา แทนที่จะได้มาซึ่งสุขภาพที่ดี กลับกลายมาเป็นนำพิษเข้าสู่ร่างกายแทน

    บุญธิดาฟาร์ม ไม่เคยมีแนวคิดผลิตสาหร่าย เพื่อความร่ำรวย หรือความสำเร็จบนความทุกข์ของผู้บริโภค เราจึงพยายามอย่างมาก ที่จะเลี้ยงสาหร่ายอย่างธรรมชาติ และไม่มีการใช้สารเคมี ไม่ว่าจะด้วยกรณีใด ๆ ไม่ว่าในขั้นตอนไหนของการผลิต ปัจจุบันเราจึงได้การรับรองจากกรมประมงฯ ที่ได้ออกเอกสารยืนยันการ “ทำฟาร์มแบบออแกนิคโดยสมบูรณ์” เพราะเราเองก็ต้องสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง และผู้บริโภคว่า สินค้าที่ไปถึงผู้บริโภคต้องไม่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคภัยใด ๆ ทางฟาร์มมีนโยบายไม่ค้าขายชีวิต และมุ่งเน้นการผลิตสาหร่าย เพื่อสุขภาพของผู้บริโภคมากกว่าหวังผลกำไรทางการเงิน แต่คุณภาพก็ต้องแลกมาด้วยการใช้กำลังทุนที่สูงกว่า ทำให้ราคาสินค้าของเราอาจจะมีราคาสูงในสายตาของพ่อค้าคนกลาง แต่ราคาที่ขายจะไม่กระทบกับราคาสาหร่ายที่มีอยู่ในท้องตลาด ที่ผู้บริโภคเป็นผู้ชำระ